พูดถึงไม้ตีกลอง
น้ำหนักของไม้ คุณสมบัติต่างๆกันของไม้และรูปทรงของไม้กลองล้วนมีอิทธิผลต่อเสียงกลองและเสียงของ Cymbal และ Hi-Hat ดังนั้นมาทำความรู้จักไม้กลองให้มากขึ้นดังนี้
ไม้ที่ทำ
ประมาณ 90% ของไม้กลองนั้นทำมาจากไม้ American Hickory ส่วนที่เหลืออาจเป็นไม้โอ๊ค เมเปิ้ล Birch หรือ Beech หรือพิเศษกว่านั้นก็เป็นไม้ Rosewood สาเหตุที่ไม้ส่วนใหญ่เป็น American Hickory เพราะคุณสมบัติของมันที่มีความแข็งแกร่ง น้ำหนัก สัดส่วน และความรองรับการสั่นสะเทือนจากการตีได้ดี
ความยาวและน้ำหนัก
ไม้กลองส่วนใหญ่จะมีความยาวอยู่ในช่วง 385 มิลลิเมตร (15.1นิ้ว) - 415 มิลลิเมตร (16.1นิ้ว) การใช้ไม้ที่ยาวกว่านี้ขณะที่แขนของคุณสั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะเราไม่ได้จับไม้กลองที่ปลายสุด (ถึงจะจับได้แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีในการตี) ซึ่งโดยทั่วไปเราจับในตำแหน่ง 1 ใน 3 ของไม้เราอาจเรียกว่าเป็นจุดศูนย์ถ่วงก็ได้ (Fulcrum Point) น้ำหนักของไม้ส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 40 - 70 กรัม ซึ่งน้ำหนักของไม้สัมพันธ์อย่างยิ่งกับความยาว ความหนา และประเภทของไม้

รูปทรงของไม้กลอง
ลักษณะทั่วไปคือเป็นการเหลาไม้จากปลายไม้ (Butt) ให้เล็กลงในจนถึงส่วนปลาย (Shoulder) แต่ก็มีไม้ที่ดีไซด์พิเศษให้ตัวด้าม (Shaft) ใหญ่กว่าปลายซึ่ง เป็นไม้ของ Tom Gauger เช่น รุ่นของTomm Gauger#17 ความลาดชันของด้ามที่เปลี่ยนไปให้ความรู้สึก และความสมดุลย์ที่ดีพิเศษเพราะจุดศูนย์ถ่วง (Fulcrum Point) ได้เปลี่ยนไปอยู่ใกล้ปลายไม้มากขึ้น
ลักษณะของหัวไม้
รูปทรงของหัวไม้กลองแบ่งได้เป็น 3 แบบใหญ่ๆ (ตามรูปที่ 2 ข้างบน) คือรูปทรงกลม (เหมือนลูกบอลหรือแอปเปิ้ล) รูปทรงรี (เหมือนลูกสาลี่แต่ผมว่าเหมือนองุ่นมากกว่า) และรูปทรงสามเหลี่ยม (เหมือน ปิรามิด) ซึ่งลักษณะของหัวไม้มีอิทธิผลอย่างมากต่อเสียงที่เกิดขึ้นเวลาเราตีCymbal
อิทธิผลของน้ำหนักต่อเสียงที่เกิดขึ้น
น้ำหนักของไม้ขึ้นอยู่กับขนาดและความหนาแน่นของไม้ ตามกฎของเสียงสะท้อนบอกว่าไม้กลองที่มีน้ำหนักมากทำให้ได้เสียงที่เต็มมากกว่า คำว่าเสียงเต็มหมายถึงได้คลื่นที่กว้างจากคลื่นเสียงที่ต่ำไปถึงสูงออกมา ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ เมื่อมือกลองคนหนึ่งตีกลองในระยะ 5-6เมตร ห่างจากเราโดยไม่มีไมค์ และใช้ไม้กลองขนาดเล็กๆ ให้ตีแรงสุดๆแค่ไหนเสียงก็ออกมาไม่ดีครับ ขณะที่เล่นด้วยไม้ใหญ่ขึ้นแต่ตีเบาลงจะได้เสียงที่ดีกว่า ลองเทียบดูครับ และเมื่อในสถานะการณ์ที่เล่นโดยผ่านการมิคเสียง ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ซาวน์เอนจิเนียร์ของคุณ ที่จะช่วยปรุงเสียงของคุณ เสียงตี Cymbal ที่ออกมาจากไม้ที่มีน้ำหนักจะมีความถี่เสียงที่ต่ำกว่าไม้น้ำหนักเบา ซึ่งบางครั้งคุณอาจไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น แต่เราสามารถแก้ไขโดยเลือกลักษณะของหัวไม้ใหม่

อิทธิผลของหัวไม้และเสียงที่เกิดขึ้น
ตามกฎของเสียงสะท้อนบอกว่าจุดสัมผัสที่ยิ่งเล็กเท่าไหร่ก็จะทำให้เสียงที่เกิดขึ้นเป็นคลื่นความถี่ที่ยิ่งสูงตามไปด้วยเช่นกัน และเช่นเดียวกันกับความหนาแน่นของไม้ยิ่งหนาแน่นมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เสียงที่เกิดขึ้นเป็นคลื่นความถี่ที่ยิ่งสูงตามไปด้วย ไม้ในอุดมคติของผู้เขียนเรื่องนี้คือไม้ที่มีน้ำหนัก ทำจากไม้ที่มีความหนาแน่นมาก มีหัวไม้เป็นทรงสามเหลี่ยม เพราะน้ำหนักและความหนาแน่นของไม้ให้ความหนาแน่นของเสียงและหัวไม้ทรงสามเหลี่ยมให้เสียงที่ชัดเจนเวลาตี Cymbal
ภาพต่อไปนี้แสดงให้เห็นรูปทรงของหัวไม้ที่มีอิทธิผลต่อเสียง
ไม้หัวทรงสามเหลี่ยม (ภาพที่ 4 ) เห็นได้ว่าเกิดจุดสัมผัสที่เล็กที่สุดดังนั้นเสียงที่ได้ออกมาก็จะเป็นเสียงที่มีความถี่เสียงที่สูง เคลียร์ ชัดเจน เนื่องจากแรงที่กดลงไปทั้งหมดสัมผัสในจุดเล็ก
เราลองเปลี่ยนตำแหน่งของไม้ (ภาพที่5) โดยให้พื้นที่สัมผัสเต็มที่เสียงที่ได้จะเปลี่ยนไปจากเคลียร์ ชัดเจน เป็นเสียงที่ทึบ ลองดูไม้กลองหัวรูปวงรี (ภาพที่6) ให้พื้นที่ผิวสัมผัสที่เหมือนกับทรงสามเหลี่ยมและเมื่อเปลี่ยนตำแหน่งการตีก็เกิดผิวสัมผัสที่ไม่ต่างกัน สุดท้ายไม้รูปทรงวงรี (ภาพที่7) จากรูปเห็นได้ว่าไม้ประเภทนี้ทำให้เกิดผิวสัมผัสมากที่สุดกว่าที่กล่าวไปแล้ว ดังนั้นจึงทำให้เกิดเสียงที่เข้มกว่า และเมื่อเทียบกับไม้ทรงหัวสามเหลี่ยม ไม้ประเภทนี้จะให้เสียงที่เข้มกว่าแบบแรกแต่เบากว่าหัวสามเหลี่ยมแบบที่ 2 เนื่องจากเกิดผิวสัมผัสที่น้อยกว่า
จับคู่ไม้กลอง
ผู้ผลิตพยายามที่จะจับคู่ไม้กลองด้วยกันด้วยเบอร์เดียวกันและน้ำหนักเท่ากัน แต่ด้วยปัจจัยด้านสภาพอากาส ความชื้น ล้วนมีอิทธิผลต่อไม้ที่ทำ ทางออกที่ดีคือคุณต้องพยายามจับคู่ไม้กลองด้วยตนเอง (แต่ผมว่าบ้านเราคงทำอย่างนั้นไม่ได้) แต่ไม้กลองส่วนใหญ่นั้นบรรจุอยู่ในถุง ซึ่งก็สามารถเช็คได้ด้วยการกลิ้งบนพื้นที่เรียบๆ เพื่อดูว่ามันงอหรือไม่
เบอร์บนไม้กลอง
ผู้ผลิตไม้กลองส่วนใหญ่ ใส่เบอร์ของตนบนไม้เช่น 5A,7B,6A,หรือ 3B ซึ่งผู้ผลิตไม่มีระบบที่แน่นอนที่จะบอกคุณสมบัติที่แท้จริงของไม้ได้ จึงตั้งเป็นเบอร์ดังกล่าวและเบอร์ต่างๆนั้นก็ไม่สามารถนำไปเทียบกับผู้ผลิตบริษัทอื่น เบอร์นั้นช่วยบอกแค่เป็นระบบที่ทำให้คุณอ้างอิงในการซื้อให้ตรงความต้องการ นอกเหนือจากระบบเบอร์ อาจมีระบบอิงชื่อศิลปิน เช่น John Doe Jazz Model , Dolly Parton Swing Model ,Steve Gadd ฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น